การฟื้นฟูผิวหน้าด้วยวิธีที่ไม่ผ่าตัดกำลังได้รับความนิยม โดยสองตัวเลือกที่ได้รับความสนใจคือ โปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ทั้งสองวิธีมีกลไกการทำงานและประโยชน์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน วันนี้ The Loft Clinic จะมาพาทุกท่านทำความเข้าใจถึงความแตกต่าง เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะกับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไขได้อย่างตรงจุด
ทำความรู้จักกับโปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox)
โปรแกรมโบท็อกซ์ คือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ (Botulinum Toxin Type A) ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อใช้ทางการแพทย์ หลักการทำงานของโปรแกรมโบท็อกซ์คือการยับยั้งการส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัวชั่วคราว สิ่งสำคัญที่ควรเข้าใจคือ โปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง ในแง่การทำงานโปรแกรมโบท็อกซ์ไม่ได้เติมเต็มผิว แต่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย ผลลัพธ์จะเห็นได้ภายใน 3-7 วันหลังการฉีด
โปรแกรมโบท็อกซ์ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?
โปรแกรมโบท็อกซ์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวหลายประเภท โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์ที่น่าสนใจอีกหลายข้อ
ลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Dynamic Wrinkles)
โปรแกรมโบท็อกซ์ สามารถลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้ว และรอยย่นบนหน้าผาก โปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง ก็คือโปรแกรมโบท็อกซ์จะทำงานโดยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าโดยเฉพาะ
ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
โปรแกรมการฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อขากรรไกร (Masseter) สามารถช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงและมีสัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น เทคนิคนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในเอเชีย เพราะช่วยให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
ลดเหงื่อบริเวณใต้วงแขน มือ และเท้า
โปรแกรมโบท็อกซ์สามารถช่วยรักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ การรักษานี้มักให้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ผลการรักษาสามารถอยู่ได้นานถึง 6 เดือน
บรรเทาอาการปวดศีรษะจากไมเกรน
โปรแกรมการฉีดโบท็อกซ์รอบศีรษะและลำคอสามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดศีรษะจากไมเกรนได้ กลไกการทำงานคือการยับยั้งการหลั่งสารที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและลดการอักเสบของเส้นประสาท เป็นตัวอย่างของการใช้โปรแกรมโบท็อกซ์ในทางการแพทย์นอกเหนือจากความสวยงาม
ทำความรู้จักกับโปรแกรม “ฟิลเลอร์” (Filler)
โปรแกรม ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเพิ่มปริมาตรและปรับมิติใบหน้า กลไกการทำงานของโปรแกรมฟิลเลอร์แตกต่างจากโปรแกรมโบท็อกซ์อย่างสิ้นเชิง เมื่อพูดถึง โปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง ต้องเข้าใจว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ทำงานด้วยการเติมเต็มบริเวณที่มีการยุบตัวหรือเสียรูปทรง ซึ่งฟิลเลอร์คือกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ
โปรแกรมฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?
โปรแกรมฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย ดังนี้
เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก (Static Wrinkles)
โปรแกรมฟิลเลอร์เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า ที่เกิดจากการเสื่อมของผิวหนังและการสูญเสียปริมาตร เช่น ร่องแก้ม ร่องข้างปาก (Nasolabial Folds) หรือรอยย่นที่มุมปาก (Marionette Lines) เมื่อเปรียบเทียบ โปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง ในด้านนี้ โปรแกรมฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันทีและสามารถแก้ไขริ้วรอยถาวรได้ดี
เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า
โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์สามารถเพิ่มปริมาตรให้กับส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าที่มีการยุบตัวตามอายุ เช่น แก้ม หน้าผาก และขมับ การเพิ่มวอลลุ่มช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ มีมิติ และสดใสมากขึ้น ฟิลเลอร์ชนิดที่มีความเหนียวสูงมักถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ
ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน
โปรแกรมฟิลเลอร์สามารถช่วยปรับมิติใบหน้าให้สมดุลและสวยงาม เช่น การเพิ่มความโดดเด่นให้กับสันจมูก เสริมคาง หรือปรับรูปริมฝีปาก การปรับสัดส่วนด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ
เติมเต็มใต้ตาให้ดูสดใส
โปรแกรมฟิลเลอร์บางชนิดสามารถใช้ในการแก้ไขปัญหารอยคล้ำใต้ตาและร่องลึกที่ทำให้ดูอ่อนล้า (Tear Trough) การเติมเต็มบริเวณนี้ต้องอาศัยความชำนาญ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ดูสดใส และดูอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์มีกรดไฮยาลูโรนิกมีความเข้มข้นต่ำมักเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับบริเวณนี้
เปรียบเทียบชัด ๆ โปรแกรมโบท็อกซ์ vs โปรแกรมฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร?
เมื่อต้องเลือกระหว่างโปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งในแง่กลไกการทำงาน ผลลัพธ์ที่ได้ และความเหมาะสมสำหรับแต่ละปัญหาผิว ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบโดยละเอียด
ประเด็น | โปรแกรมโบท็อกซ์ | โปรแกรมฟิลเลอร์ |
กลไกการทำงาน | ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ | เติมเต็มปริมาตรใต้ผิวหนัง |
ปัญหาที่แก้ไขได้ดี | ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า | ร่องลึกถาวร การเพิ่มปริมาตร |
ระยะเวลาเห็นผล | 3-7 วัน | เห็นผลทันที |
ระยะเวลาอยู่ได้ | 3-6 เดือน | 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิด) |
ความเจ็บปวด | น้อย | ปานกลาง |
ผลข้างเคียง | รอยช้ำ บวมเล็กน้อย | รอยช้ำ บวม แดง |
การแก้ไขหากไม่พอใจ | ต้องรอให้หมดฤทธิ์ | สามารถสลายได้ทันที (กรณีโปรแกรมฟิลเลอร์ HA) |
สถานการณ์ไหนควรเลือกใช้โปรแกรมโบท็อกซ์ และ โปรแกรมฟิลเลอร์?
เมื่อเข้าใจว่าโปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง แล้ว การเลือกใช้จึงควรพิจารณาตามปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข โปรแกรมโบท็อกซ์เหมาะสำหรับริ้วรอยบนหน้าผาก รอยตีนกา รอยย่นระหว่างคิ้ว การปรับรูปหน้าให้เรียวและลดเหงื่อ
ส่วนโปรแกรมฟิลเลอร์เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกข้างจมูกและปาก เพิ่มปริมาตรแก้ม ปรับมิติใบหน้า และแก้ไขรอยคล้ำใต้ตา ในบางกรณี การผสมผสานทั้งสองวิธีอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น ใช้โปรแกรมโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนหน้าผากพร้อมกับใช้โปรแกรมฟิลเลอร์เติมเต็มร่องแก้ม
ฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ พร้อมกันได้ไหม
สามารถฉีดพร้อมกันได้ และในหลายกรณี การฉีดทั้งโปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ในครั้งเดียวกันอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำแยก เนื่องจากทั้งสองวิธีทำงานต่างกลไกกัน โดยโปรแกรมโบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย ขณะที่โปรแกรมฟิลเลอร์จะเติมเต็มส่วนที่ยุบตัว ทำให้การฟื้นฟูผิวหน้าเป็นไปอย่างครบวงจร อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
โปรแกรมโบท็อกซ์ และ โปรแกรมฟิลเลอร์ ควรฉีดทำอันไหนก่อน
หากต้องเลือกทำเพียงหนึ่งอย่างก่อน แพทย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้เริ่มจากโปรแกรมโบท็อกซ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เนื่องจากการลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อก่อนจะช่วยให้เห็นชัดว่าบริเวณใดยังต้องการการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ นอกจากนี้ การทำโปรแกรมโบท็อกซ์ก่อนยังช่วยให้ผลลัพธ์ของโปรแกรมฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เพราะกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวน้อยลงจะทำให้ฟิลเลอร์ถูกดันเคลื่อนที่น้อยลงด้วย อย่างไรก็ตาม ลำดับการทำควรพิจารณาตามสภาพผิวและความต้องการเฉพาะบุคคล
สรุปบทความ
โปรแกรมโบท็อกซ์ กับ โปรแกรมฟิลเลอร์ต่างกันยังไง คำตอบคือแตกต่างทั้งกลไกและการใช้งาน โปรแกรมโบท็อกซ์ทำงานโดยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย ในขณะที่โปรแกรมฟิลเลอร์เติมเต็มปริมาตรใต้ผิวหนัง การเลือกใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข การปรึกษาแพทย์ก่อนจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคล
หากคุณต้องการฟื้นฟูผิวให้เนียนกระชับ และต้องการคำปรึกษาจากแพทย์ The Loft Clinic พร้อมให้การดูแล ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือโปรแกรมโบท็อก เราพร้อมให้บริการโดยแพทย์และบุคลากร เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวของคุณอย่างตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ที่ดี หากสนใจ สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้เลยที่ Facebook : The Loft Clinic Line : @theloftclinic หรือโทร : 061-812-1166 เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างดีที่สุด!