ปัญหาคางสองชั้น หรือเหนียง ทำให้กรอบหน้าจะดูไม่คมชัด ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมอาจดูอ้วนขึ้นหรือดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมากเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทำให้หลายคนพยายามมองหาวิธีลดเหนียงใต้คางที่ได้ผลจริง
“เหนียงใต้คาง” คืออะไร?
เหนียงใต้คาง (Double Chin) คือลักษณะของเนื้อเยื่อที่สะสมอยู่บริเวณใต้คางจนถึงลำคอ ทำให้มองเห็นเป็นชั้นซ้อนขึ้นมา หรือที่เรียกกันว่าคางสองชั้น ซึ่งอาจเกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกิน หรือเกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ ทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัดเจนและส่งผลต่อมิติของใบหน้าโดยรวม
สาเหตุหลักการเกิดเหนียงใต้คางที่คุณอาจไม่เคยรู้
การที่เราจะเริ่มต้นลดเหนียงใต้คางให้ได้ผลลัพธ์ จำเป็นต้องทราบก่อนว่าเหนียงที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร เพราะแต่ละสาเหตุมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน
1. การสะสมของไขมัน
การสะสมของไขมันส่วนเกินใต้คางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การรับประทานอาหารที่มีไขมันและแคลอรีสูง เมื่อร่างกายเผาผลาญไม่หมด ไขมันเหล่านี้ก็จะไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ รวมถึงบริเวณใต้คาง แม้ว่าเราจะผอมแต่ก็อาจมีไขมันสะสมเฉพาะจุดได้เช่นกัน การลดเหนียงใต้คางที่เกิดจากไขมัน ต้องเน้นการกำจัดไขมันเป็นหลัก
2. ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวจะลดลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและเกิดความหย่อนคล้อย ผิวหนังบริเวณใต้คางและลำคอที่หย่อนลงมานี้เองที่ทำให้เกิดเป็นเหนียง การลดเหนียงใต้คางประเภทนี้ต้องเน้นการยกกระชับ
3. โครงสร้างกล้ามเนื้อและการยุบตัวของกระดูก
โครงสร้างใบหน้ามีผลอย่างมาก บางคนอาจมีเหนียงจากพันธุกรรม เช่น มีคางสั้น คางหลุบ หรือสันกรามไม่คมชัด ทำให้มีพื้นที่ระหว่างคางและลำคอไม่มาก เนื้อเยื่อจึงดูกองรวมกัน นอกจากนี้ กล้ามเนื้อ Platysma ที่ใช้ดึงผิวบริเวณคออาจอ่อนแรง และเมื่ออายุมากขึ้น กระดูกบริเวณกรามอาจยุบตัวลง ทำให้ผิวหนังที่เคยตึงตัวไม่มีที่ยึดเกาะและหย่อนลงมาเป็นเหนียงได้
รวมวิธีลดเหนียงใต้คางด้วยวิธีธรรมชาติ

สำหรับปัญหาเหนียงใต้คางที่ไม่ได้รุนแรงมาก หรือเกิดจากไขมันสะสมเพียงเล็กน้อย การลดเหนียงใต้คาง ด้วยวิธีธรรมชาติสามารถช่วยได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องอาศัยวินัยและความสม่ำเสมอ ซึ่งอาจไม่ใช่วิธีลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วันที่เห็นผลชัดเจน แต่เป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเฉพาะส่วนอาจไม่ช่วยลดไขมันเฉพาะส่วนได้โดยตรง แต่การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและการฝึกเวทเทรนนิ่งเพื่อลดไขมันทั้งตัวจะช่วยลดเหนียงใต้คางได้ นอกจากนี้ การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอและใบหน้า จะช่วยเพิ่มความกระชับของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ได้
ควบคุมอาหาร
หากเหนียงเกิดจากไขมัน การควบคุมอาหารคือหัวใจสำคัญของการลดเหนียงใต้คาง โดยงดรับประทานอาหารแปรรูป ของทอด ของมัน และน้ำตาล ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมไขมัน เน้นการรับประทานโปรตีนดี ผักผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ ที่สำคัญควรควบคุมปริมาณแคลอรีให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้ร่างกายดึงไขมันสะสมรวมถึงไขมันใต้คางมาใช้
การนวดหน้า
การนวดหน้าและลำคอเป็นประจำสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง ลดอาการบวมน้ำบริเวณใบหน้าได้ การใช้กัวซาหรือลูกกลิ้งนวด นวดในทิศทางขึ้นจากคางไปยังกรอบหน้า จะช่วยให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นชั่วคราวและช่วยขับของเสีย แม้จะไม่ใช่การลดเหนียงใต้คางที่ถาวร แต่ก็เป็นวิธีผ่อนคลายที่ดี
แนะนำหัตถการลดเหนียงใต้คางจากไขมันสะสม

สำหรับปัญหาเหนียงใต้คางที่เกิดจากการสะสมของไขมัน แต่การลดไขมันใต้คางด้วยวิธีธรรมชาติอาจใช้เวลานานเกินไป การเลือกหัตถการที่ออกแบบมาเพื่อสลายไขมัน จะช่วยลดเหนียงใต้คาง ให้เห็นผลชัดเจนมากขึ้น ไปดูกันว่ามีเทคโนโลยีใดบ้างที่ช่วยสลายไขมันได้ดี
โปรแกรมการฉีดเมโสแฟต
โปรแกรมการฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เป็นการฉีดตัวยาที่มีคุณสมบัติสลายไขมันเข้าไปยังชั้นไขมันใต้คาง ตัวยาจะทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ เป็นวิธีที่สะดวก ไม่ต้องผ่าตัด แต่อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง และอาจมีอาการบวมหลังทำ ซึ่งบางคนอาจหวังผลลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน แต่มักจะเห็นผลชัดเจนเมื่ออาการบวมยุบลงและไขมันเริ่มสลายตัวที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
โปรแกรมดูดไขมัน
การดูดไขมัน (Liposuction) สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางปริมาณมาก การดูดไขมันเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจน แพทย์จะเปิดแผลเล็ก ๆ และใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปเพื่อดูดเซลล์ไขมันส่วนเกินออก เป็นการลดเหนียงใต้คางที่ช่วยให้เห็นกรอบหน้าชัดเจน
กลุ่มหัตถการ “ยกกระชับผิว” สำหรับผู้มีเหนียงจากความหย่อนคล้อย
หากปัญหาเหนียงของเราเกิดจากผิวหย่อนคล้อย การฉีดสลายไขมันอาจไม่ช่วยแก้ปัญหา แถมยังอาจทำให้ผิวดูหย่อนมากขึ้น การลดเหนียงใต้คางจะเน้นไปที่การยกกระชับ เพื่อฟื้นฟูคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ผิวกลับมาตึงกระชับ
Program Ultraformer III และ Program Ultraformer MPT
Program Ultraformer ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound) ยิงพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS พลังงานจะทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อและการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะสำหรับการลดเหนียงใต้คางที่ต้องการการยกกระชับ
Program Ulthera SPT
Program Ulthera SPT ใช้เทคนิค S-P-T (See Plan Treat) ในการลดเหนียง โดยแพทย์จะใช้หน้าจอตรวจดูชั้นไขมันและ SMAS บริเวณใต้คาง เพื่อวางแผนการปล่อยพลังงาน จากนั้นจึงยิงพลังงานไปยังเป้าหมายอย่างแม่นยำ ทำให้ชั้น SMAS หดตัวกระชับ และช่วยสลายไขมันสะสมที่เหนียง ส่งผลให้เหนียงลดลง ผิวกระชับ กรอบหน้าคมชัด
Program Ulthera Prime
Program Ulthera Prime (อัลเทอร่า) เป็นเทคโนโลยี MFU-V (Micro-focused Ultrasound with Visualization) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์แบบเฉพาะเจาะจง จุดเด่นคือมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ที่แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวจริงขณะทำ (Real-time imaging) ทำให้สามารถยิงพลังงานได้แม่นยำและปลอดภัยสูงสุด ลงลึกถึงชั้น SMAS เช่นกัน ให้ผลลัพธ์การลดเหนียงใต้คางชัดเจนและอยู่ได้นาน 1-2 ปี
Program Thermage FLX
Program Thermage FLX ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) ที่สามารถส่งพลังงานความร้อนลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ความร้อนจะช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้เล็กน้อย จึงเหมาะกับคนที่มีไขมันปนความหย่อน แต่จุดเด่นหลักคือการกระตุ้นการจัดเรียงตัวและการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นและตึงกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Program Morpheus 8
Program Morpheus 8 เป็นนวัตกรรมที่รวมเอา Microneedling (การใช้เข็มขนาดเล็ก) เข้ากับพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) โดยเข็มจะส่งพลังงาน RF ลงไปใต้ผิวได้ลึกตามที่กำหนด พลังงานนี้จะช่วยสลายไขมันใต้ผิว พร้อมกับกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวตึงกระชับ อิ่มฟูและลดเหนียงใต้คางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับคนที่มีเหนียงจากไขมัน ผิวหย่อนคล้อย ร่วมกับผิวไม่เรียบเนียน
Program Volnewmer
Program Volnewmer เป็นเทคโนโลยี Monopolar RF ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการยกกระชับและฟื้นฟูผิว โดยเน้นการส่งพลังงานความร้อนที่เสถียรและสม่ำเสมอลงสู่ชั้นผิวหนังแท้ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นคือหัวทิปยืดหยุ่น และแนบสนิทไปกับผิว ช่วยยุบเหนียง ลดไขมัน สร้างกรอบหน้า Jawline ชัด กระตุ้นการสร้าง collagen type III และ Type Iและมีระบบทำความเย็นที่ช่วยให้ระหว่างทำรู้สึกสบายมากขึ้น เหมาะสำหรับการลดเหนียงใต้คางที่ต้องการความแน่นของผิวและปรับปรุงคุณภาพผิว
The Loft Clinic ขอแชร์ ลดเหนียงใต้คางอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
การลดเหนียงใต้คางให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน The Loft Clinic ขอแชร์ว่าควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินว่าปัญหาเกิดจากไขมันหรือความหย่อนคล้อย แพทย์จะช่วยเลือกหัตถการและรูปแบบการรักษาที่เหมาะสมกับเราที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือหรือการฉีดสลายไขมัน ที่สคำคัญควรออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น
สรุป
การลดเหนียงใต้คางให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ต้องเริ่มต้นจากการประเมินสาเหตุที่แท้จริง ว่าเหนียงใต้คางเกิดจากไขมัน หรือความหย่อนคล้อยกันแน่ เพื่อเลือกวิธีการลดเหนียงที่ตรงกับปัญหาที่สุด ดังนั้น การเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ The Loft Clinic เพื่อวิเคราะห์และวางแผนการลดเหนียงใต้คางที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคืนกรอบหน้าที่คมชัดให้กับเรา หากใครที่มีปัญหาคางสองชั้น เหนียงใต้คาง The Loft Clinic พร้อมดูแล จัดการปัญหาเหนียง ทั้งจากปัญหาไขมัน และความหย่อยคล้อย หากสนใจสามารถนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ได้ที่ โทร. 098-236-2429
คำถามที่พบบ่อย
หัตถการลดเหนียงใต้คาง ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การทำหัตถการลดเหนียงนั้น จำนวนครั้งในการทำหัตถการขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการและความรุนแรงของปัญหา
- กลุ่มฉีดสลายไขมันอาจต้องทำ 3-5 ครั้ง ห่างกัน 1-2 สัปดาห์
- กลุ่มเครื่องยกกระชับ เช่น Program Ulthera หรือ Program Thermage FLX มักเห็นผลชัดเจนในการทำตั้งแต่ครั้งแรก ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี ส่วน Program Ultraformer MPT อาจแนะนำให้ทำซ้ำทุก 6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์
ระหว่างทำหัตถการเจ็บไหม?
ความรู้สึกเจ็บในการทำหัตถการนั้นจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล การฉีดโปรแกรมเมโสแฟตจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดและอาจปวดบวมเล็กน้อยหลังทำ ส่วนเครื่องมือยกกระชับอย่าง Program Ultraformer III, Program Ultraformer MPT หรือ Program Ulthera อาจรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ บริเวณที่ทำ ส่วน Program Thermage FLX จะรู้สึกร้อน แต่หัตถการส่วนใหญ่จะมีการทายาชาหรือเป่าลมเย็นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติได้ผลจริงไหม?
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติได้ผลจริง สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียงไม่มากและเกิดจากไขมันสะสม การควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดเหนียงใต้คางได้ แต่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม วิธีธรรมชาติไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากวัยหรือปัญหาเชิงโครงสร้างกระดูกได้ และไม่ใช่ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน